อุบัติเหตุจยย.ชน จยย. เจ็บ 2 กู้ภัยกลัวเกิดเหตุซ้ำ จอดเปิดสัญญาณไฟ สุดท้ายเกิดเหตุ กระบะเบรกไม่ทันชนท้ายพังยับทั้งคู่
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2562 ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งว่ามี อุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกัน มีผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย และเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ที่บริเวณแยกไร่ป่า ขาเข้าเมืองตราด ถนน.สุขุมวิท สายตราดคลองใหญ่ ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด
ในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ล้มอยู่กลางถนน คันแรกจักรยานยนต์ฟีโน่ หมายเลขทะเบียน กธช 887 ตราด ด้านข้างได้รับความเสียหาย และมีผู้บาดเจ็บ เป็นหญิงสูงอายุ 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งรพ. และอีกคัน จักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก หมายเลขทะเบียน กหข 164 ตราด สภาพด้านข้างเสียหาย ผู้บาดเจ็บเป็นชายพนักงานสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะปฐมพยาบาลและนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
ห่างจากจุดเกิดเหตุยี่สิบเมตร รถระโดยสารประจำทางป้ายเหลืองหมายเลขทะเบียน 10-1128 ด้านหลังรถทางขึ้นของผู้โดยสารถูกชนได้รับความเสียหาย และเป็นรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลักเกาะ ทราบชื่อต่อมาคือนาย ไพบูลย์ กิจจานนท์ อายุ 47 ปี เป็นผู้ขับรถโดยสารประจำทาง และเป็นอาสาสมัครกู้ภัยหลักเกาะ และรถกระบะ โตโยต้าวีโก้ หมายเลขทะเบียน บฉ 5161 ตราด ได้รับความเสียหายที่ด้านหน้า ซึ่งได้ชนกับรถโดยสารประจำทาง ทราบชื่อคนขับคือ นายจำเป็น เลียดประถม อายุ 68 ปี ทั้งสองรายนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่
สอบถาม นายไพบูลย์ ได้เล่าว่า ตนเองรับผู้โดยสารมาแล้วเจออุบัติเหตุจักรยานยนต์ชนกับจักรยานยนต์ต่อหน้า จึงได้จอดรถเพื่อป้องกันเกิดเหตุซ้ำซ้อน และเปิดไฟฉุกเฉินทิ้งไว้ แต่รถกระบะคู่กรณีได้ชนท้าย ทำให้รถไหลไกลว่า สิบเมตรเนื่องจากปล่อยเกียร์ว่างไว้
ส่วนนาย จำเป็น ได้เล่าว่า ตนเองมาทางบ้านที่ท่าพริก เนื่องจากป่วยจึงได้เดินทางจะไปโรงพยาบาลตราด เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ได้เห็นอุบัติเหตุมอไซด์ชนกัน และมีรถยนต์โดยสารอยู่ด้านหลังของอุบัติเหตุ โดยที่ตนไม่ได้สังเกตว่า รถยนต์โดยสารอยู่ด้านหน้ารถตนเอง เมื่อเข้ามาในระยะกระชั้นชิดจึงเบรกไม่อยู่ จึงชนเข้าที่ด้านท้ายรถยนต์โดยสารของ อาสาสมัครกู้ภัยจนได้รับความเสียหาย
ต่อมา พันตำรวจตรี วุฒิพงศ์ ล้อมวงศ์ ร้อยเวรสภ.เมืองตราด ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ เพื่อบันทึกเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ในเบื้องต้นก่อนที่จะเชิญให้ทั้งสองฝ่ายไปให้ปากคำบันทึกประจำวันก่อนตกลงชดใช้ค่าเสียหายกันต่อไป