ตราดพบยอดติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ติด ขณะที่สาธารณสุขจังหวัดตราด เผยตัวเลขยอดฉีดวัคซีนเข็ม 3 แค่ 41 เปอร์เซ็นต์ ส่วนยอดฉีดวัคซีนเมื่อวานทั้งจังหวัดมีแค่ 4 คน
( 5 ก.ค. 65) สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จังหวัดตราด ล่าสุดวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ RT-PCR 4 ราย ATK 34 ราย ไม่มีเสียชีวิตรายใหม่ เหลือรักษาตัวในโรงพยาบาล 48 ราย
ขณะที่ยอดสะสมตั้งแต่ปี 2563 มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งหมด 62,393 ราย (RT-PCT 27,182 ราย ATK 35,211 ราย) จากประชากรตราดและแรงงานต่างด้าว 201,529 คน หรือประมาณ 30 % ส่วนผู้เสียชีวิตมีทั้งหมด 201 ราย
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 1 ฉีดแล้ว 189,905 คน ( 94.23 %) เข็มที่ 2 ฉีดแล้ว 179,144 คน (88.89 %) ส่วนเข็มที่ 3 ซึ่งเป็นเข็มกระตุ้นฉีดได้เพียง 82,946 คน (41.16%)
ปัจจุบันสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราด มีความพยายามที่จะให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่กระตุ้นหรือเข็มที่ 3 เพื่อลดความรุนแรงของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 นั้น ทีมีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุด
ขณะที่ข้อมูลการฉีควัคซีนของจังหวัดตราด เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 มีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนแค่ 4 คน เท่านั้น
นอกจากนี้ จากสถิติผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดตราด รายสัปดาห์ มีอัตราติดเชื้อสูงขึ้น 2 สัปดาห์ติด ซึ่งเป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการของรัฐบาล ส่วนสายพันธุ์ใหม่ของจังหวัดตราดนั้น ในตอนนี้ยังไม่พบ
ด้านกระทรวงสาธารณสุข ออกจดหมายด่วนที่สุดถึงสาธารณสุขทั่วประเทศให้เตรียมความพร้อม หลังพบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดเพิ่มมากขึ้น ดังนี้
1.สื่อสารให้บุคลากรทางการแพทย์ ได้รับทราบสถานการณ์ และผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการ และระมัดระวังป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ
2.ให้สำรวจและเตรียมความพร้อมด้านยา เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ป้องกัน การติดเชื้อเพื่อสามารถให้บริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.เตรียมความพร้อมในการสำรองเตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก
4.เตรียมความพร้อม และซักซ้อมระบบการส่งต่อผู้ป่วย
5.เร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้บุคลากร รวมทั้งประชาชนอย่างครองคลุม และเป็นไปตามความสมัครใจ
6.ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก้ประชาชนในการป้องกันการติดเชื้อ และการแพร่กระจายเชื้อ
7.บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อวางแผนในการควบคุม ป้องกัน การแพร่ระบาด
8.รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลให้ครบถ้วน และเป็นปัจจบันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้แจ้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเรียบร้อยแล้ว
