
ลูกจ้างเทศบาลแสนตุ้งโดดสะพาน จนท.ยังหาไม่พบ
ลูกจ้างเทศบาลแสนตุ้งกระโดดสะพานเวฬุ จมหายนานกว่าชั่วโมง กู้ภัย,เจ้าหน้าที่ทหาร,ตำรวจ,ปภ.นำกำลังและอุปกรณ์ออกช่วยค้นหา ด้านแม่เผยลูกชายมีอาการป่วยต้องพบจิตแพทย์และทานยาคลายเครียดมาเกือบปีแล้ว
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ประจำด่านท่าจอด ต.แสนตุ้งอ.เขาสมิง จ.ตราด ได้รับแจ้งจากมีเหตุคนกระโดดน้ำที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำเวฬุ เมื่อรับแจ้งแล้วจึงได้ประสานไปยังอาสาสมัครกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือ เขตอำเภอเขาสมิง เพื่อให้นำกำลังออกมาช่วยในการค้นหา
ในที่เกิดเหตุอยู่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำเวฬุ พบมีชาวบ้าน อาสาสมัครกู้ภัย เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ที่ออกมาช่วยในการค้นหา รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ที่มีเรือได้นำเรือออกมาช่วยกันค้นหาเช่นกัน
นายสุริยัน แสงศรี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/1 หมู่ 5 ต.ประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราด ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นตนเองนั่งตกปลาอยู่บริเวณใต้สะพาน ได้ยินเสียงเหมือนมีของตกลงน้ำ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรก็เดินกลับมานั่งตกปลาต่อ ผ่านไปประมาณ 2-5 นาที ได้ยินเสียง คนตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
และเมื่อมองออกไปบริเวณกลางแม่น้ำใกล้ ๆ กับตอม้อ เห็นชายคนหนึ่งกำลังผลุบโผล่ ร้องว่าช่วยด้วย ตนจึงวิ่งไปหาเจ้าของเรือเพื่อขอให้เขานำเรือที่จอดอยู่ตรงริมตลิ่งนำเรือออกไปช่วย ประกอบกับกระแสน้ำมีความแรง ทำให้พัดตัวชายดังกล่าวไปไกล กระทั่งจมหายไป

ทางด้านนางสาวประไพ ดวงอุดมพงศ์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 2 ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง ผู้เป็นแม่ของผู้ที่จมน้ำสูญหาย บอกว่า คนที่จมน้ำเป็นลูกชายชื่อนายวิเชียร วรรณแสง อายุ 48 ปี เป็นลูกจ้างทำสวนของเทศบาลตำบลแสนตุ้ง ก่อนหน้าที่จะทราบว่าลูกมากระโดดน้ำจนจมหายไปในแม่น้ำเวฬุ ในเวลา 17.30 น. ลูกชายยังนั่งสมาธิอยู่ในบ้านอยู่เลย ส่วนตนเองก็เตรียมอาหารให้ลูกชาย เนื่องจากนายวิเชียรต้องกินยาหลังอาหาร เพราะมีอาการเครียด ต้องเข้ารับการรักษากับจิตแพทย์และทานยารักษามานานแล้ว วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ก็จะครบ 1 ปี
และเมื่อเตรียมอาหารเสร็จกลับไม่พบลูกชายก็เดินตามหา ขณะนั้นมีคนบอกว่า มีรถกู้ภัย รถตำรวจมาที่ใต้สะพานเพราะมีคนกระโดดน้ำ ตนจึงขี่รถจักรยานออกมาดู และมีคนบอกว่ามีคนกระโดดน้ำและจมหายไป ตนได้สอบถามว่าใส่เสื้อสีอะไร ซึ่งคนที่พบบอกสีเสื้อตรงกันจึงมั่นใจว่าเป็นลูกชายคือนายวิเชียร แน่นอน
ต่อมาทางญาติของนางสาวประไพได้เข้ามาหาและพานางสาวประไพไปไหว้เจ้าพ่อปากเกาะ เพื่อขอให้พบนายวิเชียรไม่ว่าจะมีชีวิตหรือเสียชีวิตขอให้พบเจอร่างของนายวิเชียรอย่าให้ได้ลอยไปที่อื่น

ซึ่งการค้นหาในเบื้องต้นจากการใช้เรือหางยาวขับวนหานานกว่า 50 นาที ก็ไม่พบ ทางอาสาสมัครกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือได้นำเรือและอุปกรณ์ดำน้ำมาทำการดำน้ำเพื่อช่วยกันค้นหา ขณะที่ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยก็ได้นำเรือและอุปกรณ์ในการค้นมาร่วมช่วยในครั้งนี้ด้วย และในเวลา 20.30 น.ทีมค้นหายังคงดำเนินการค้นต่อไป